2.9.54

stitch story


          
STITCH 




                      ชีวิตมีความท้าทายรออยู่สำหรับ ลีโล่ (ให้เสียงพากย์โดย ดาวีห์ เชส) เด็กหญิงเหงาๆ ชาวฮาวาย ที่ใช้ชีวิตอยู่กับพี่สาววัย 19 ชื่อ นานี่ (ให้เสียงพากย์โดย เทีย คาร์เรเร่) สาวน้อยทั้งสองดิ้นรนต่อสู้เลี้ยงดูตนเองแต่อะไรๆ ไม่ได้ดำเนินไปอย่างสวยงามนัก เมื่อ คอบร้า บับเบิลส์ (ให้เสียงพากย์โดย วิง เรมส์) นักสังคมสงเคราะห์จอมเครียดแวะมาเยี่ยม เขาก็พบสองสาวพี่น้องกำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง เขาจึงเตือนนานี่ว่า เธอมีเวลาเหลืออีกแค่ 3 วันเท่านั้น ในอันที่จะพิสูจน์ตัวเองว่า เหมาะสมแก่การทำหน้าที่ดูแลลีโล่ได้ หาไม่แล้วสถานการณ์ในบ้านหลังนี้ จะต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอน และแล้วในเย็นวันนั้น ลีโล่ก็เห็นดาวตกผ่านหน้าต่างห้องนอน เธอจึงอธิษฐานขอ "ใครซักคนก็ได้มาเป็นเพื่อน ใครซักคนที่จะไม่วิ่งหนีหนูไป" ก่อนเสริมด้วยว่า "ท่านส่งเทวดามาให้หนูก็ได้ เทวดาที่น่ารักที่สุดที่ท่านมีอยู่น่ะค่ะ"
แต่ในความจริง ดาวตกดวงนั้นคือยานอวกาศของ สติทช์ สิ่งมีชีวิตประหลาด (ที่รู้จักกันในชื่อ "การทดลอง 626") ซึ่งเพิ่งหนีมาจากดาวทูโร่ นักวิทยาศาสตร์ชื่อ จัมบ้า (ให้เสียงพากย์โดย เดวิด อ็อกเดน สเทียร์ส) ผู้สร้างมันขึ้นมาพูดถึงสติทช์ว่า เป็นอะไรที่ "กันกระสุน กันไฟ และคิดได้เร็วยิ่งกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซะอีก มันมองเห็นได้ในความมืด และยกวัตถุอะไรๆ ที่ใหญ่โตกว่าตัวมันถึง 3 พันเท่าได้ สัญชาตญาณอย่างเดียวของมันก็คือ.. ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสัมผัส" ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย ในสายตาของสมาชิกสภาหญิง (ให้เสียงพากย์โดย โซ คาลด์เวลล์) แห่งสหพันธ์กาแล็กติค เธอจึงจับจัมบ้าเข้าคุก และพิพากษาให้ส่งตัวสติทช์ ไปยังดาวเคราะห์น้อยไกลลิบ แต่ก่อนที่กัปตันแกนทู จะลงมือกำจัดสติทช์ตามคำสั่ง มันก็ขโมยยานของตำรวจ และบังคับให้พุ่งด้วยความเร็วสูง หนีมายังโลกได้ทันเวลา สมาชิกสภาไม่มีทางเลือกอื่นอีก จึงต้องเสนอว่า จะปล่อยตัวจัมบ้าเป็นอิสระ หากเขาตามจับสติทช์กลับมาได้ และเพื่อจะคอยควบคุมปฏิบัติการของจัมบ้าไว้ ไม่ให้คลาดสายตา เธอจึงส่ง พลีคลี่ย์ (ให้เสียงพากย์โดย เควิน แม็คดอนัลด์) เอเลี่ยนผู้สนใจศึกษาโลกมนุษย์เป็นพิเศษ และมีสามขากับตาหนึ่งข้างให้ติดตามมาด้วย (โดยความรู้ทั้งมวลที่พลีคลี่ย์มีเกี่ยวกับโลกนั้น ได้มาจากการดูภาพใน View-master® ล้วนๆ )
ฝ่ายสติทช์นั้นบังคับยานมาถึงโลก และเคราะห์ร้ายดิ่งเข้าใส่รถบรรทุกน้ำตาลทรายเต็มเปา เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีก็พบว่า ตัวเองอยู่ในบ้านดูแลสัตว์หลังหนึ่ง และฉายแววเสน่ห์น่ารักเข้าตา จนลีโล่เก็บมันไปเลี้ยง (พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า สติทช์) ทักษะสุดล้ำหน้า ทำให้มันสามารถเก็บซ่อนแขนขาพิเศษ (จาก 6 เหลือ 4 ข้าง), เสาอากาศและเดือยบนหลังได้ เพื่อให้ตัวเองดูเหมือนหมาหน้าตาพิลึกๆ ตัวหนึ่ง แม้พี่สาวของลีโล่ และลูกจ้างบ้านดูแลสัตว์จะผวาหน้าตาของมัน แต่ลีโล่กลับหลงรักสติทช์ และยืนกรานจะนำกลับไปเลี้ยงที่บ้านให้ได้ ขณะที่สติทช์เองก็รู้ว่า ลีโล่กับนานี่มีที่คุ้มภัย ให้มันรอดจากเงื้อมมือชองจัมบ้ากับพลีคลี่ย์ได้ มันจึงยินดีที่จะถูกรับตัวไปเลี้ยง และทำตัว "ติดหนึบ" กับครอบครัวใหม่ของมันทันที
แต่ชีวิตใหม่ก็ไม่ได้ราบรื่นเอาซะเลย สติทช์เริ่มสำแดงพฤติกรรมร้ายๆ และสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไม่หยุดหย่อน จนแทบจะเรียกได้ว่า เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักน้อยที่สุดแล้วบนโลกใบนี้ เมื่อลีโล่พามันไปร้านอาหารที่นานี่ทำงานอยู่ สติทช์ก็สร้างความพินาศจนนานี่ถูกไล่ออกจากงาน แต่ถึงอย่างนั้นลีโล่ก็ยังปกป้องมัน และกระตุ้นให้มันทำตัวเป็นประชากรตัวอย่าง เหมือนฮีโร่ของเธอคือ เอลวิส เพรสลี่ย์ ด้วย เดวิด คาเวน่า (ให้เสียงพากย์โดย เจสัน สก็อตต์ ลี) แฟนเก่า และเพื่อนร่วมงานของนานี่ พยายามช่วยให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้น ด้วยการชวนไปเล่นโต้คลื่นในตอนบ่าย ซึ่งสติทช์ก็สามารถเอาชนะ อาการเกลียดการเล่นเซิร์ฟของมันได้สำเร็จ แถมยังติดอกติดใจไม่ยอมเลิก จนเมื่อจัมบ้ากับพลีคลี่ย์มาพบเข้า ทั้งคู่ก็ดึงมันให้จมลงใต้น้ำ แต่เดวิดเข้ามาช่วยชีวิตไว้ได้ทันเวลา
คอบร้า บับเบิลส์ เห็นภาพความวุ่นวายบนชายหาดเข้าเต็มตา จึงบอกกับนานี่ว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว นอกจากแยกตัวลีโล่ไปซะ สติทช์จึงรู้ตัวเดี๋ยวนั้นเองว่า มันกำลังทำลายครอบครัวน้อยๆ นี้ ขณะที่ความปรารถนาโอฮาน่า ('ohana - ศัพท์ฮาวายเอี้ยน หมายถึงแนวคิดเรื่องครอบครัว ที่จะไม่มีการทอดทิ้ง หรือหลงลืมใครไว้ตามลำพัง) ของลีโล่ก็จางลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อสมาชิกสภาหญิง ไล่จัมบ้ากับพลีคลี่ย์ออก เพราะปฏิบัติการล้มเหลว ทั้งคู่ก็ตัดสินใจลงมือครั้งสุดท้าย ด้วยการไล่ตามสติทช์ ไปถึงบ้านของลีโล่กับนานี่ แล้วพังบ้านนั้นทิ้ง แต่ก็ยังจับตัวสติทช์ไม่สำเร็จอยู่นั่นเอง
ในช่วงเวลาที่อะไรๆ เลวร้ายถึงขีดสุด กัปตันแกนทู (ให้เสียงพากย์โดย เควิน ไมเคิล ริชาร์ดสัน) ก็เดินทางมา พร้อมยานลำยักษ์ เพื่อจับตัวสติทช์ มันหนีไปได้ แต่ลีโล่กลับถูกจับแทน สติทช์ซึ่งตระหนักในที่สุดว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลีโล่กับนานี่ จึงเกลี้ยกล่อมจัมบ้ากับพลีคลี่ย์ ให้ร่วมแรงกันช่วยลีโล่ออกมา การไล่ล่าอันดุเดือดทั่วเกาะฮาวายจึงเกิดขึ้น และสติทช์สามารถช่วยลีโล่ออกมาได้สำเร็จ ร้อนถึงสมาชิกสภาหญิง ต้องตัดสินใจออกมาเป็นผู้ควบคุมตัวสติทช์เอง และเกมนี้ดูเหมือนจะจบสิ้นลงในที่สุด แต่.. กฎของเกมก็ไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่ใครๆ คาดคิด!



เป็นเรื่องแบบย่อๆนะค่ะ  
ลิ้งค์อันนี้เป็นเรื่องของสติชค่ะ XD 

และก็มีรูปมาฝากเช่นเคยค่ะ

เป็นกระเป๋าจากเจ้าสติชค่ะ



ปากกาสติชค่ะ
*อันนี้ จขบ. เคยมีด้วยแต่พังไปแล้วToT*

 

พบกันบล็อคหน้านะค่ะ :-)


*มีอะไรติชิมได้นะค่ะ XD*

31.8.54

ชินจังจอมเเก่น ♥♥♥


ชินจังจอมเเก่น
             ชินจังจอมแก่น (ญี่ปุ่น: クレヨンしんちゃん Kureyon Shinchan ?) (อังกฤษ: Crayon Shin-chan) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องและภาพโดยโยชิโตะ อุสึอิ ตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นโดยสำนักพิมพ์ Futabasha ในประเทศไทยตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ และได้รับการสร้างเป็นแอนิเมชัน ในปีพ.ศ.2535
           ชินจังจอมแก่น เป็นการ์ตูนแนวตลกขบขันเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ชินจังเป็นการ์ตูนที่มีลายเส้นง่ายๆ เป็นการ์ตูนยอดฮิตทุกประเทศ
เนื้อเรื่อง
             เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชินจัง (โนะฮาร่า ชิโนสึเกะ; Nohara Shinosuke) เด็กอนุบาลวัย 5 ขวบสุดแก่น มีนิสัยคล้ายคลึงกับพ่อ (ฮิโรชิ) เช่น ชอบผู้หญิงหุ่นดีหน้าตาดี และยังชอบอาบน้ำกับพ่อมาก . แม่ของชินจัง (มิซาเอะ) มีนิสัยขี้เหนียวและขี้อ่อนแอ แต่โมโหง่ายและน่ากลัว.ชินจังมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อฮิมาวาริ. ครอบครัวของชินจังเลี้ยงหมาหนึ่งตัว ชื่อเจ้าขาว (ชิโร่). เพื่อน ๆ ของชินจังที่พบในเรื่องบ่อย ๆ คือ คาซาม่าคุง, เนเน่จัง, มาซาโอะคุง, และ โบจัง ชินจังมักมีท่าแปลกๆ เช่น ท่ามนุษย์ต่างดาวนู้ดครึ่งก้น ท่าที่เอากางเกงในมาครอบหัว โดยทำเหมือนกับว่ามันเป็นหน้ากาก ชินจังชอบดูการ์ตูนหน้ากากแอ็คชั่น เป็นคนที่ชื่นชอบ และชื่นชมในตัวหน้ากากแอ็คชั่นมาก มีขนมโปรดคือ ช็อกโกบิ การละเล่นของชินจังที่โรงเรียนคือ เล่นเป็นยุง เล่นเป็นอึ เล่นซ่อนแอบแบบไม่มีคนหา เล่นแกล้งตายบนหิมะ เล่นพ่อ แม่ ลูก (เมื่อถูกเนเน่จังบังคับ) สูง105.9 หนัก22.8
ตัวละครที่สำคัญ
  • โนะฮาร่า ชินโนซึเกะ (อายุ 5 ปี) ตัวละครเอกของเรื่อง มีนิสัยเจ้าชู้ แก่แดด กะล่อน ชื่นชอบสาวสวยหุ่นดีคล้ายฮิโรชิ หาเรื่องป่วนได้ทุกเวลา อึ,ฉี่เรื่ยราด มีปัญหาเรื่องออกเสียงและการใช้ภาษาอย่างผิดหลักไวยากรณ์ กระนั้นก็ยังพูดจาฉะฉาน ใช้คำพูดเกินเด็ก แทงใจดำคน ปากอ่อน อ่านใจคนเก่งมาก (ดังพบเห็นได้จากการไปห้างสรรพสินค้า ที่มักจะรู้เล่ห์กลของพนักงานขาย) แต่แท้จริงแล้วเป็นคนที่รักครอบครัวและคนรอบข้างอยู่ ที่สำคัญกว่านั้นสิ่งที่ไม่มีใครพูดถึง คือ ความมีน้ำใจของชินจัง มีความเฉลียวฉลาด กล้าหาญ คิดดีทำดี และสุดท้ายเป็นคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่นแถมยังชอบช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนด้วย (ความสามารถพิเศษของชินจังคือ มีปฏิกิริยาตอบโต้กับสาวสวยรวดเร็ว ลอกเลียนแบบเก่ง ทำเครื่องแต่งกายเก่ง และเต้นเก่ง)
  • โนะฮาร่า ฮิมาวาริ (วัยคลาน) น้องสาวของชินโนซึเกะ มีนิสัยคล้ายมิซาเอะ ชื่นชอบเครื่องประดับและดาราหนุ่มหล่อ ชื่อของฮิมาวาริมาจากการเลือกชื่อโดยการใช้เครื่องบินกระดาษ โดยคำว่า ฮิมาวาริ มาจากชื่อห้องเรียนที่ชินโนซึเกะเรียนอยู่ (ฮิมาวาริ แปลว่า ดอกทานตะวัน)
  • โนะฮาร่า มิซาเอะ (อายุ 29 ปี) แม่ของชินโนซึเกะ ชอบใส่กางเกงในสีใส ขนหน้าแข้งดก ท้องลาย พละกำลังเยอะ ก้นเบอะ ทำให้ถูกชินโนะซึเกะนำไปล้อเสมอ นอกจากนั้นยังมีเรื่องอับอายขายหน้าเพื่อนบ้านจากการเล่นกับชินจังอยู่บ่อยๆ ในการลงโทษชินโนะซึเกะนั้นมีทั้งเบาและหนักเช่น เขกหัว ปั่นหัว (หรือปั่นนรก) หยิกแก้ม หยิกหู แต่ที่หนักที่หนักที่สุดคือ ตีก้น10ทีรวด
  • โนะฮาร่า ฮิโรชิ (อายุ 35 ปี) พ่อของชินโนซึเกะ มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แอบเจ้าชู้และชอบกินเบียร์(ประมาณว่าขาดสักวันจะลงแดง)เลี้ยงดูชินโนซึเกะแบบเพื่อน บางครั้งถูกชินโนะซึเกะแกล้งจนเข้าใจผิดว่านอกใจหลายตอน
  • เจ้าขาว (ชีโร่) สุนัข(น่าจะเป็นพันธุ์พุดเดิล)ที่ถูกทิ้ง ซึ่งชินจังนำมาเลี้ยง แต่มักจะไม่ได้รับการเอาใจใส่จากชินจังเท่าที่ควร เช่น ลืมให้อาหาร ไม่พาไปเดินเล่น(จะทำก็ต่อเมื่อมิซาเอะสั่ง) มีนิสัยชอบเก๊กหล่อเมื่อสุนัขตัวเมียเดินผ่าน มีอยู่ตอนหนึ่ง มิซาเอะขายเจ้าขาวไปแต่ก็มาอยู่กันอีกครั้ง มีแฟนชื่อเมงุ
  • ซากุราดะ เนเน่ มีชื่อเล่นว่า เนเน่จัง เป็นเด็กสาวในกลุ่มของชินโนซึเกะ มีนิสัยขี้โมโห แต่ซ่อนไว้โดยการทำนิสัยน่ารัก ชอบเล่นพ่อแม่ลูกเป็นชีวิตจิตใจ เนเน่จังจะต่อยตุ๊กตากระต่ายตัวเล็กเป็นการระบายอารมณ์ ซึ่งเลียนแบบมาจากคุณแม่ของเนเน่จังนั่นเอง(หลายคนคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าสาวของชินโนะซิเกะในอนาคต)
  • โทโอรุ คาซามะ มีชื่อเล่นว่า คาซาม่าคุง เป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ยุ่งอยู่กับธุรกิจ จึงต้องอยู่ที่แมนชั่น เพื่อให้ สะดวกต่อการย้ายบ้าน จึงทำให้คาซาม่าคุง มีนิสัยขี้โอ่ ชอบอวดร่ำอวดรวยในบางครั้ง และยังติดแม่มาก แต่เป็นเด็กเรียนดีของห้อง เพราะเรียนพิเศษ (บางครั้งก็ไม่อยากเรียน) มักถูกชินโนซึเกะแซวเล่นและคอยปั่นป่วนตลอดเวลา เลยทำให้ไม่กล้าเปิดเผยความชอบส่วนตัวสักเท่าไหร่ (เช่นชอบการ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์ โมเอะ-P) เกรงจะถูกชินโนซึเกะเอาไปล้อ จริง ๆ แล้วเป็นเพื่อนที่สนิทกับชินจังมาก ชอบแต่งคอสเพลย์เนตัวละครหญิง ในปี2010อยู่มหาวิทยาลัยโตเกียว
  • ซาโต้ มาซาโอะ มีชื่อเล่นว่า มาซาโอะคุง เป็นเด็กผมโล้น มีนิสัยขี้ระแวง ขี้แย อ่อนแอ ถูกหลอกง่ายจึงมักถูกเพื่อนๆลากไปสร้างวีรกรรมเสมอๆ แต่บางครั้งก็ดูเข้มแข็งขึ้น(จะเห็นได้ชัดจากฉบับการ์ตูนภาพยนตร์) มักถูกเด็กประถมรังแกบ่อยครั้ง มีฉายาว่า หัวข้าวปั้น หลงรักไอย์จังอย่างโงหัวไม่ขึ้น (แสดงให้เห็นถึงเรตผู้ชม)
  • โบ เป็นเด็กที่พูดน้อยและตัวสูงที่สุดในกลุ่ม ลักษณะเด่นคือ มีน้ำมูกไหลย้อยตลอดเวลาและพูดแค่คำว่า "โบ" มีความลับอยู่ในเรื่องครอบครัว เพราะไม่ปรากฏพ่อแม่โบจังเลย (มีตอนที่กลุ่มชินจังพยายามตามสืบหาพ่อแม่ของโบจัง แต่ไม่สำเร็จ) มีความเก่งด้านศิลปะเชิงนามธรรม ได่รับรางวัลประกวดวาดภาพหลายครั้ง เช่น หัวใจของอีกา ชอบสะสมหินรูปร่างแปลกๆ
  • ซึโอโตเมะ ไอย์ มีชื่อเล่นว่า ไอย์จัง เป็นคุณหนูลูกเศรษฐี เป็นทั้งเพื่อนและคู่กัดของเนเน่จัง (แต่ปัจจุบันเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว) ปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 16 มักจะชอบพูดจาเกี่ยวกับเรื่องฐานะ ซึ่งทำให้มีปัญหากับเนเน่จังอยู่บ่อยครั้ง หลงรักชินโนะซึเกะมาก แต่เจ้าตัวไม่สนใจ มีความสามารถพิเศษในการจัดงานต่างๆ (โดยใช้บอดี้การ์ด) และทำให้เด็กผู้ชายคนอื่นๆตกหลุมรักได้ (ยกเว้นชินจัง) แต่ในเล่ม24เกลียดชินจังเพราะคำว่า "วุ่นวาย" คำเดียว
!!อ่านจนตาลายเเล้ว มาดูรูปพักผ่อนสายตากันเถอะ!!


           
โอ้วววววววววว...... -.,-
แอบติดเรท 55



29.8.54

ประวัติโดราเอม่อน

ประวัติโดราเอม่อน

                    โดเรม่อน หรือโดราเอม่อน เป็นแมวหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ยุคศตวรรษที่ 22 เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2655 มีน้ำหนัก 129.5 กก. ความสูง 129.3 ซม. กระโดดได้สูง 129.3 ซม. และยังวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กม. / ชม. ลักษณะตัวอ้วนกลมสีน้ำเงิน ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูกิน ไม่มีนิ้วมือ มีกระดิ่งห้อยคอสีเหลือง มีหนวดหกเส้น มีกระเป๋าหน้าสำหรับเก็บของวิเศษ สารพัดอย่างที่สุดยอด อาหารที่ชอบที่สุดคือ แป้งทอด (โดรายากิ) สิ่งที่กลัวที่สุดคือ หนู 
                      วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2512 เป็นวันที่เริ่มต้นพิมพ์หนังสือการ์ตูนเรื่อง "Doraemon" ในประเทศญี่ปุ่น โดยจินตนาการของนักเขียนชาวญี่ปุ่นสองคน ที่ใช้นามปากการ่วมกัน ว่า ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ โดยตัวการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 ซึ่งจินตนาการให้เป็นแมวตัวกลมๆ มีความสามารถพิเศษ และกระเป๋าวิเศษที่บรรจุของมากมาย จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ชาย ที่ขี้แย ไม่เอาไหน คนนึง และสอดแทรกคติธรรมเข้าไป ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก
                     ชื่อโดราเอมอน มาจากคำว่า...โดราเนโกะ แปลว่า แมวหลงทาง เอมอน เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อน โดราเอมอน เกิดขึ้นโดยความบังเอิญในขณะที่ 2 นักเขียนการ์ตูนชื่อฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะขณะที่กำลังจินตนาการ สร้างการ์ตูนตัวใหม่ด้วยความลำบาก และกดดัน เนื่องจากเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะถึงกำหนดส่งต้นฉบับ บังเอิญเหลือบเห็นตุ๊กตาของลูกสาว ทำให้นึกต่อไปถึงตุ๊กตา แมว ล้มลุก และกลายเป็นโดราเอมอนในที่สุด

                 การ์ตูนเรื่องโดเรม่อน มีจุดเด่นในเรื่องของจินตนาการ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกอนาคต ที่ผู้อ่านทั่วไปคาดไม่ถึง จากปลายปากกาของ อ. ทั้งสอง ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าไปในตัวการ์ตูน แบ่งลักษณะนิสัยของคนออกมาในแต่คาแร็คเตอร์ได้อย่างลงตัว เหมือนกับนำเอาชีวิตจริงของผู้อ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนด้วย ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม อ่านได้ทุกเพศทุกวัย จนทำให้มีการพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้มากมาย สามารถขายได้ถึง 100 ล้านเล่มใน ญี่ปุ่น และแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก ถึง 9 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยอีกด้วย นอกจากการ์ตูนแล้ว โดเรม่อน ถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนต์ทางจอเงิน และจอแก้วมากมายหลายตอน โดยฉายครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2524 และฉายที่ประเทศไทยเราครั้งแรก วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2525

ทุกคนคงได้ทราบประวัติโดราเอม่อนกันไปเยอะแล้วใช่ไหมค่ะ :3
มาชมรูปภาพน่ารักๆจากเจ้าแมวเหมียวโดเรม่อนกันเถอะค่ะ:)



โดเรม่อนกับโดเรมี:)

โดเรม่อนกินแตงโมม 


โดเรม่อนและผองเพื่อน



ภาพของเจ้าแมวเหมียวโดเรม่อนก็มีเท่านี้ล้ะค้าาXD
ไปแล้ววววเจอกันบล็อคหน้าา 

*มีอะไรติชมได้นะค่ะ ไว้จะมาตอบ:-) พูดคุยกันได้ค้าาา*


27.8.54

ประวัติคิตตี้


ประวัติคิตตี้


           เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมัน้ำหนักตัวเท่ากับแอปเปิ้ล 3 ผล
เจ้า Kitty เป็นแมวเด็กหญิงตัวเล็ก ซึ่งชอบการทำ คุกกี้เป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่น ชอบ ลูกกวาด
ดาว และปลาทอง ฯลฯ อีกด้วย 
            แมวเหมียวสีชมพูคาแรกเตอร์การ์ตูน ฮัลโหล คิตตี้ ที่น่ารักน่าชังขวัญใจ ของกลุ่มคนหลายวัยได้ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ โลโก้ ยี่ห้อ ดัดแปลงให้เข้ากับ ผลิตภัณฑ์นานาชนิด ที่มีราคาไม่กี่สิบบาทไปจนถึงหลักล้านบาท อาทิเช่น สินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือ , โน้ตบุ๊ก , คอมพิวเตอร์ พีดีเอ
ยูเอสบี ฮับ , กระติกน้ำร้อน และสินค้าอื่นๆ ถูกวางขายตั้งแต่ 30 ปีเศษที่ผ่านมา ความนิยมในตัวการ์ตูนแมวเหมียว ถูกต้อนรับจาก กลุ่มวัยรุ่นที่เป็นต้นแบบของความน่ารัก คิกขุ โดยจะมีกลุ่มใหม่ๆ เกิดขึ้นมาเพื่อหลงใหลเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และคงไม่มีใครคิดว่า จะสร้างรายได้ให้ บริษัทซานริโอถึงปีละ
1,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 41,000 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายตัวลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ ฮัลโหล คิตตี้ ได้ถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท ถูกนำไปใช้กับสินค้าทั่วโลกกว่า 22,000 ชนิด แม้กระทั่งมิตซูบิชิยังใช้โลโก้นี้ผลิตรถมินิคาร์สีชมพ โดยในแต่ละเดือนจะมีสินค้าใหม่ๆ เข้ามาถึง 600 ชนิด เพราะเป็นสินค้าที่ขายได้ มีกลุ่มลูกค้าชัดเจน ขณะที่ซานริโอเองผลิตสินค้าของตนภายใต้ยี่ห้อฮัลโหล คิตตี้ประมาณ 6,000 ชนิด โดยที่เจ้าของมีกฎข้อห้ามไม่ให้นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ยาสูบ แอลกอฮอล์ และอาวุธ นายชินทาโร ซึจิ ผู้ก่อตั้งบริษัทซานริโอมาตั้งแต่ปี 2503 ได้สิทธิ์ขายสินค้า สนู X  ” และ บาร์บี้ ในญี่ปุ่น ต่อมาคิดค้นตัวฮัลโหล คิตตี้ ออกมาในปี 2513 
จนปัจจุบัน คาแรกเตอร์การ์ตูนของซานริโอมีอยู่กว่า 400 ตัว ตัวที่ประสบความสำเร็จ ที่สุดก็คือแมวเหมียวฮัลโหล คิตตี้ ตามด้วยสุนัข ซินนามอร์โรลล์ ” 
และแมว ช็อกโกแค็ท แน่นอนว่าฮัลโหล คิตตี้ จะต้องเป็นผู้เลี้ยงดูตัวคาแรกเตอร์ อื่นๆ ที่ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้ สิ่งที่ท้าทายซานริโอในขณะนี้ก็คือ รายได้หลักที่มีอยู่ถึง 85% อยู่ในประเทศญี่ปุ่น ขณะที่อัตราการขยายตัวของประชากรอยู่ในระดับต่ำมากเกือบศูนย์เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการละเมิดลิขสิทธิ์ยังเป็นอุปสรรคขวากหนามหลัก และยังมีการประเมินกันว่ามียอดละเมิดลิขสิทธิ์อยู่เกือบ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือกว่า 32,000 ล้านบาท โดยสินค้าเกือบทั้งหมดจะมาจากประเทศจีน
ยิ่งในปัจบันเป็นยุคสังคมดิจิตอลที่สินค้าไฮเทค ถูกประดิษฐ์คิดค้นออกมาจำนวนมาก แต่ไม่ว่าจะไฮเทคแค่ไหน ฮัลโหล คิตตี้ ก็ยังจะเป็นที่นิยม ไปอีกแสนนานตราบที่ยังมีลูกค้าที่ ภักดีกับ แมวเหมียวตัวนี้ 


ทุกคนคงรู้จักกับเจ้าคิตตี้มากขึ้นแล้วนะค่ะ 
ก็มีรูปเ้จ้าคิตตี้มาฝากกันเล็กๆน้อยๆค่ะ





เจ้าพวกนี้น่ารักไหมค่ะ? :3 



*มีอะไรให้แก้ไขบอกได้นะค่ะXD*